ปัญหาใบหน้าเป็นหลุมควร รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี และควรเลือกคลินิกแบบไหน เป็นคำถามที่หลายคนกำลังมองหาคำตอบ โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติเป็นสิวอักเสบรุนแรง แม้สิวจะหายไปแล้ว แต่ร่องรอยที่ทิ้งไว้ในรูปแบบของหลุมสิวกลับกลายเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการรักษาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
หลุมสิว ไม่ใช่แค่ปัญหาผิวหน้าธรรมดา แต่เกิดจากการที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังถูกทำลายอย่างรุนแรงจากการอักเสบของสิว ส่งผลให้เกิดรอยบุ๋มหรือหลุมที่มีความลึกแตกต่างกันไป ในบางรายอาจพบรอยแผลเป็นนูนร่วมด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นใจและการใช้ชีวิตประจำวัน
ปัจจุบันเทคโนโลยีการรักษาหลุมสิวมีความก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คลินิกผิวหนังและศูนย์ความงามหลายแห่งได้นำเครื่องมือที่ทันสมัยมาให้บริการ พร้อมทั้งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความรุนแรงของปัญหาในแต่ละบุคคล
ในบทความนี้ Thaitop จะพาไปทำความรู้จักกับคลินิกชั้นนำที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานทางการแพทย์ มีความปลอดภัยสูง และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อให้คุณสามารถเลือกสถานที่รักษาหลุมสิวที่ตอบโจทย์และไว้วางใจได้
10 คลินิก รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี
รักษาหลุมสิว คืออะไร
การรักษาหลุมสิว คือ กระบวนการฟื้นฟูผิวที่เป็นรอยบุ๋มหรือแอ่งที่เกิดจากสิวอักเสบรุนแรง ซึ่งทำลายเนื้อเยื่อและคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง การรักษาปัญหานี้จึงต้องใช้ความอดทนและเวลา เนื่องจากต้องกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เพื่อซ่อมแซมผิวที่เสียหาย
การรักษาหลุมสิวเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลานาน โดยทั่วไปมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป และต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ วิธีการรักษาจะเน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว โดยผลลัพธ์ของการรักษาจะขึ้นอยู่กับความลึกและประเภทของหลุมสิวที่เกิดขึ้น
เป้าหมายสำคัญของการรักษาคือการทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด โดยใช้วิธีการรักษาที่ปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย และให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาว การรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมจะช่วยฟื้นฟูผิวและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว
| อ่านเพิ่มเติม รักษาสิวด้วยฟิลเลอร์
หลุมสิวเกิดจากอะไร
หลุมสิว หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Atrophic Scars เป็นปัญหาผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สาเหตุหลักเกิดจากการอักเสบของสิวที่รุนแรงจนลุกลามเข้าสู่ชั้นหนังแท้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการทำลายคอลลาเจนในบริเวณนั้น
เมื่อการอักเสบของสิวหายไป ร่างกายจะพยายามซ่อมแซมบริเวณที่ได้รับความเสียหาย แต่ในบางครั้ง กระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่อาจเกิดขึ้นช้าเกินไป หรือไม่เกิดขึ้นเลย ทำให้บริเวณนั้นกลายเป็นพังผืดและเกิดเป็นรอยบุ๋มหรือหลุมบนผิวหน้า ส่งผลให้ผิวขาดความเรียบเนียนและเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
ระดับความรุนแรงของหลุมสิว
- Ice Pick Scar (ระดับรุนแรงที่สุด) มีลักษณะเป็นรูแคบและลึกคล้ายรอยเข็มแทง โดยมีความลึกมากกว่า 2 มิลลิเมตร มักพบได้บ่อยบริเวณหน้าผากและแก้ม สาเหตุเกิดจากการอักเสบรุนแรงที่ทำลายเนื้อเยื่อลึกถึงชั้นไขมัน การรักษาประเภทนี้จำเป็นต้องใช้วิธีเฉพาะ เช่น TCA CROSS หรือ Punch Excision และต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง บางกรณีอาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Box Scar (ระดับรุนแรงปานกลาง) มีลักษณะเป็นหลุมเหลี่ยมคล้ายกล่อง ขอบชัดเจนและค่อนข้างตั้งฉาก ความลึกประมาณ 0.5-2 มิลลิเมตร พบได้ทั่วใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณแก้มและขมับ สามารถรักษาด้วยเลเซอร์ Fractional CO2 หรือ RF Microneedling ซึ่งการรักษามักเห็นผลชัดเจนหลังทำ 2-3 ครั้ง
- Rolling Scar (ระดับทั่วไป) มีลักษณะเป็นคลื่นหรือแอ่งกว้าง ขอบหลุมมนไม่ชัดเจน ความลึกไม่เกิน 0.5 มิลลิเมตร เกิดจากพังผืดยึดใต้ผิวหนัง ตอบสนองดีต่อการรักษาด้วย Subcision หรือ Dermal Filler และมักมีโอกาสฟื้นฟูได้ดีกว่าประเภทอื่นๆ
ทั้งนี้ ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวอาจพบรอยแผลได้หลายประเภทในใบหน้าเดียวกัน การรักษาที่มีประสิทธิภาพจึงมักต้องผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน โดยขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นรายกรณีไป
รวมวิธีการรักษาหลุมสิว
-
เลเซอร์ Fractional หรือเครื่อง Fractora
เป็นการรักษาที่ใช้ลำแสงเลเซอร์ความเข้มข้นสูงยิงลงไปในผิวหนัง เพื่อสร้างรูเล็ก ๆ จำนวนมาก ทำให้เกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวหนัง เหมาะสำหรับหลุมสิวระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยเฉพาะ Box Scar และ Rolling Scar หลังทำจะมีอาการแดงและลอกประมาณ 5-7 วัน ต้องทำการรักษา 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1-2 เดือน
-
เลเซอร์ Erbium
เป็นเลเซอร์ที่มีความละเอียดและแม่นยำสูง เหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวตื้นถึงปานกลาง ทำงานโดยการกำจัดผิวชั้นบนออกทีละชั้นอย่างควบคุมได้ ช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น ระยะเวลาฟื้นตัวสั้นกว่า CO2 ประมาณ 3-5 วัน ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บน้อยกว่าและมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นต่ำ
-
RF Microneedling
เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้เข็มขนาดเล็กและคลื่นความถี่วิทยุ เข็มจะสร้างช่องเล็กๆ ในผิวหนังพร้อมกับปล่อยคลื่น RF เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับหลุมสิวทุกระดับ โดยเฉพาะ Rolling Scar ข้อดีคือฟื้นตัวเร็ว 1-3 วัน และสามารถปรับความลึกของเข็มได้ตามความเหมาะสม
-
Subcision
เป็นวิธีการรักษาที่ใช้เข็มพิเศษตัดพังผืดใต้ผิวหนังที่ดึงรั้งทำให้เกิดหลุมสิว เหมาะสำหรับ Rolling Scar และหลุมสิวที่มีพังผืดยึด หลังทำการรักษาอาจมีรอยช้ำ 5-7 วัน แต่เมื่อหายแล้วผิวจะยกตัวขึ้นและดูเรียบเนียนขึ้น
-
Filler
เป็นการฉีดสารเติมเต็มใต้ผิวหนังเพื่อยกหลุมสิวให้ตื้นขึ้น เหมาะสำหรับ Rolling Scar และหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก ให้ผลลัพธ์ทันที แต่อยู่ได้ไม่ถาวร ประมาณ 6-12 เดือน ต้องฉีดเติมเป็นระยะ
ในการรักษาหลุมสิวที่มีประสิทธิภาพ แพทย์มักจะผสมผสานหลายวิธีเข้าด้วยกัน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพผิวและประเภทของหลุมสิวของผู้ป่วยแต่ละราย
| อ่านเพิ่มเติม รวม 10 คลินิก ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี หมอเก่ง บริการดีที่สุดในไทย
ข้อควรระวังเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิว
การรักษาหลุมสิวเป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ต้องใช้ความระมัดระวังและการดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผิวหน้าเป็นบริเวณที่บอบบางและมีความซับซ้อน การรักษาที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียและทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนได้ สำหรับข้อควรระวังเกี่ยวกับการรักษาหลุมสิว มีอะไรบ้าง ดังนี้
- ต้องรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากการรักษาหลุมสิวต้องอาศัยความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง การเลือกวิธีรักษาต้องเหมาะสมกับประเภทและความรุนแรงของหลุมสิว รวมถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ตรวจประวัติการแพ้ยาและการติดเชื้อก่อนรักษา เพราะผู้ป่วยบางรายอาจมีประวัติแพ้ยาชา หรือมีการติดเชื้อที่ผิวหนัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการรักษาและการฟื้นตัว
- ไม่ควรรักษาขณะมีสิวอักเสบ เนื่องจากจะทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้นและอาจเกิดแผลเป็นเพิ่มเติม ควรรักษาสิวให้หายก่อน หรือรอให้การอักเสบลดลงจนอยู่ในระดับที่ปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการรักษาหากมีโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง สะเก็ดเงิน หรือผื่นผิวหนังอักเสบ เพราะอาจทำให้อาการกำเริบและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
- ต้องแจ้งประวัติการใช้ยาทุกชนิดกับแพทย์ โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อการสร้างคอลลาเจนหรือการหายของแผล เช่น ยารักษาสิว Isotretinoin ยาสเตียรอยด์ หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
การรักษาหลุมสิวต้องทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งแจ้งประวัติสุขภาพและการใช้ยาอย่างครบถ้วน เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนและให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการรักษาหลุมสิว
ในระหว่างการรักษาหลุมสิว ผิวหนังจะอยู่ในช่วงที่บอบบางและไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติ เนื่องจากผ่านกระบวนการรักษาที่ก่อให้เกิดการฟื้นฟูของผิว การดูแลตัวเองที่ถูกต้องและการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจส่งผลเสียจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพราะในช่วงแรกของการรักษา ผิวจะไวต่อแสงแดดมากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงในช่วงเวลา 10.00-16.00 น.
- ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า PA+++ ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแจ้ง
- งดใช้ครีมที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA กรดผลไหม้และกรดซาลิไซลิกอาจระคายเคืองผิวที่กำลังฟื้นตัว และอาจทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และอาจรบกวนกระบวนการฟื้นฟูของผิว
- งดใช้สครับหรือผลิตภัณฑ์ขัดผิวเพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลหรือการระคายเคืองเพิ่มเติม ส่งผลเสียต่อการรักษา
- ห้ามแกะสะเก็ดที่เกิดขึ้น เพราะสะเก็ดเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟื้นฟูตามธรรมชาติ การแกะอาจทำให้เกิดแผลเป็นได้
- หลีกเลี่ยงการนวดหน้าแรง ๆ การนวดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและรบกวนการฟื้นตัวของผิว
- งดออกกำลังกายหนัก 3-7 วัน การออกกำลังกายทำให้เลือดสูบฉีดและอาจเพิ่มการอักเสบของผิว
- หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่าหรืออบไอน้ำ เนื่องจากความร้อนสูงอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและรบกวนการฟื้นตัว
การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ในช่วงรักษาหลุมสิวมีความสำคัญอย่างมากต่อผลลัพธ์การรักษา ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจรบกวนการฟื้นตัวของผิว เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
ราคารักษาหลุมสิวโดยประมาณ แต่ละวิธีมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
การรักษาหลุมสิวในปัจจุบันมีหลากหลายวิธี แต่ละวิธีมีราคาแตกต่างกันไปตามความซับซ้อนของเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญที่ต้องใช้ในการรักษา ราคาที่แจ้งเป็นเพียงค่าเฉลี่ยโดยประมาณ อาจแตกต่างกันในแต่ละคลินิกและโรงพยาบาล
- เลเซอร์ Fractora (5,000-15,000 บาทต่อครั้ง): ราคาขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่รักษาและความเข้มข้นของพลังงานที่ใช้ คลินิกที่มีชื่อเสียงหรือโรงพยาบาลเอกชนอาจมีราคาสูงกว่า
- RF Microneedling (8,000-20,000 บาทต่อครั้ง): ราคาแปรผันตามชนิดของหัวเข็ม จำนวนหัวเข็ม และเทคโนโลยีของเครื่องมือ บางคลินิกอาจรวมการรักษาเสริมอื่นๆ เช่น วิตามินบำรุงผิว
- การร้อยไหม (10,000-30,000 บาทต่อครั้ง): ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมที่ใช้และคุณภาพของไหม ไหมนำเข้าจากต่างประเทศมักมีราคาสูงกว่า
- PRP (15,000-25,000 บาทต่อครั้ง): ราคารวมค่าเจาะเลือด ค่าปั่นแยกเกล็ดเลือด และค่าฉีด บางสถานที่อาจคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มหากทำร่วมกับการรักษาอื่น
- ฟิลเลอร์ (15,000-40,000 บาทต่อครั้ง): ราคาขึ้นอยู่กับแบรนด์และปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ ฟิลเลอร์คุณภาพสูงและนำเข้าจะมีราคาแพงกว่า
การรักษาหลุมสิวมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เพราะต้องทำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ผู้ป่วยควรวางแผนงบประมาณและสอบถามรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดก่อนเริ่มการรักษา
เกณฑ์การเลือกคลินิกรักษาหลุมสิวที่น่าเชื่อถือ
การเลือกคลินิกที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในการรักษาหลุมสิว คลินิกที่ดีต้องมีมาตรฐานทางการแพทย์ที่น่าเชื่อถือและมีความพร้อมในทุกด้าน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษา โดยเกณฑ์การเลือกคลินิกรักษาหลุมสิว ที่ Thaitop ได้แชร์ไว้ มีดังนี้
- มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล: ต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง มีการต่ออายุใบอนุญาตตามกำหนด และมีการแสดงใบอนุญาตในที่เปิดเผย
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ: แพทย์ต้องจบด้านตจวิทยาโดยตรง มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม และมีประสบการณ์ในการรักษาหลุมสิวโดยเฉพาะ
- ใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน: อุปกรณ์ทางการแพทย์ต้องผ่านการรับรองจาก อย. มีการดูแลรักษาและทำความสะอาดตามมาตรฐาน รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย
- มีประวัติการรักษาที่น่าเชื่อถือ: มีการเก็บข้อมูลและประวัติการรักษาอย่างเป็นระบบ สามารถติดตามผลการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง และมีการรับประกันผลการรักษา
- มีการรีวิวจากลูกค้าจริง: มีรีวิวและผลงานการรักษาที่สามารถตรวจสอบได้ มีภาพก่อน-หลังการรักษาที่ชัดเจน และมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา
การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานครบถ้วนตามเกณฑ์จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษาหลุมสิว ควรตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา
การเตรียมตัวก่อนรักษา
การเตรียมตัวก่อนการรักษาหลุมสิวเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรด 1 สัปดาห์: หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA, BHA, Retinol หรือวิตามินซี เพื่อไม่ให้ผิวบอบบางเกินไปก่อนการรักษา และป้องกันการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดก่อนรักษา 3-5 วัน: การสัมผัสแสงแดดมากเกินไปอาจทำให้ผิวไวและเสี่ยงต่อการเกิดรอยดำหลังการรักษา ควรทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งในช่วงแดดจัด
- งดแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง: แอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดและการฟื้นตัวของผิว รวมถึงอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและการอักเสบ
- ทำความสะอาดหน้าให้สะอาด: ใช้คลีนเซอร์อ่อนๆ ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด ไม่ควรขัดหรือถูแรง และไม่ควรแต่งหน้ามาในวันที่รับการรักษา
การดูแลผิวหลังรักษา
การดูแลผิวหลังการรักษาหลุมสิวเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษาเอง เพราะจะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการรักษาและการฟื้นตัวของผิว ผู้เข้ารับการรักษาควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกวัน: ผิวที่ผ่านการรักษาจะไวต่อแสงแดดมากเป็นพิเศษ การทาครีมกันแดดจะช่วยป้องกันการเกิดรอยดำและการระคายเคือง ควรทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงหากต้องอยู่กลางแจ้ง และเลือกใช้ครีมกันแดงที่มีค่า PA++++ เพื่อการป้องกันที่ครอบคลุม
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์แนะนำเท่านั้น: ผลิตภัณฑ์ที่แพทย์สั่งจะมีส่วนผสมที่เหมาะสมกับสภาพผิวและการรักษาของคุณโดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังการรักษา เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการโดนน้ำร้อน 24 ชั่วโมง: น้ำร้อนอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและบวมแดงเพิ่มขึ้น ควรใช้น้ำอุณหภูมิห้องในการล้างหน้า และหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน การเข้าซาวน่า หรือการแช่น้ำร้อน
- ทาครีมบำรุงและสมานแผลตามที่แพทย์สั่ง: ครีมเหล่านี้จะช่วยเร่งการฟื้นฟูผิวและลดการระคายเคือง ควรทาตามเวลาและปริมาณที่แพทย์แนะนำ อย่าเพิ่มหรือลดปริมาณการใช้เอง เพราะอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการรักษา
- สังเกตอาการผิดปกติและแจ้งแพทย์ทันทีหากมีปัญหา: ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น การอักเสบรุนแรง คัน แสบ หรือมีน้ำเหลืองซึม หากพบความผิดปกติใดๆ ควรแจ้งแพทย์ทันทีเพื่อรับการแก้ไขอย่างถูกต้อง
การเตรียมตัวที่ดีก่อนแลหลังการรักษาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดและแจ้งแพทย์หากมีข้อสงสัยหรือความกังวลใดๆ
กลุ่มคนที่เหมาะ/ไม่เหมาะกับการรักษาหลุมสิวแต่ละวิธี
การรักษาด้วย Fractora แม้จะมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาปัญหาผิวหลายประการ แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การพิจารณาความเหมาะสมของผู้เข้ารับการรักษาจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่แพทย์ต้องประเมินอย่างละเอียด เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย
กลุ่มที่เหมาะสมกับการรักษา
- ผู้ที่มีปัญหาหลุมสิวทุกระดับ: เนื่องจาก Fractora สามารถปรับความลึกของเข็มและความเข้มข้นของคลื่น RF ได้ จึงสามารถรักษาหลุมสิวได้ทั้งแบบตื้นและลึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลุมสิวประเภท Rolling scars และ Box scars
- ผู้ที่มีริ้วรอยและต้องการกระชับผิว: Fractora กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวได้ในคราวเดียวกัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหลายอย่างและต้องการแก้ไขพร้อมกัน
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง: คลื่น RF จะช่วยกระชับรูขุมขนจากภายใน ทำให้ผิวเนียนเรียบขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างร่วมกับปัญหาผิวอื่น ๆ
กลุ่มที่ไม่เหมาะสมกับการรักษา
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร: เนื่องจากความปลอดภัยของคลื่น RF ต่อทารกในครรภ์ยังไม่มีการศึกษาที่ชัดเจน และอาจส่งผลต่อน้ำนมมารดา
- ผู้ที่มีแผลเปิดหรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง: เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อและการอักเสบที่อาจรุนแรงขึ้น ควรรักษาให้หายสนิทก่อนเริ่มทำ Fractora
- ผู้ที่เพิ่งทำเลเซอร์หรือทรีทเมนท์อื่นมาไม่ถึง 2 สัปดาห์: ผิวต้องการเวลาในการฟื้นตัว การทำทรีทเมนท์ซ้ำเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองรุนแรง
- ผู้ที่มีโรคภูมิต้านทานผิดปกติ: เนื่องจากอาจมีปัญหาในการหายของแผลและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
- ผู้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือด: เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกผิดปกติหรือการเกิดรอยช้ำรุนแรงหลังการรักษา
การประเมินความเหมาะสมก่อนทำ Fractora เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ที่สนใจควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแจ้งประวัติสุขภาพและการใช้ยาอย่างละเอียด เพื่อให้การรักษาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย
เคล็ดลับการป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวซ้ำ
การป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวซ้ำเป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษา เพราะการเกิดสิวและการอักเสบซ้ำอาจทำให้เกิดหลุมสิวเพิ่มขึ้นได้ การดูแลผิวอย่างถูกวิธีและการจัดการกับสิวตั้งแต่ระยะแรกจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันปัญหานี้
- รักษาสิวตั้งแต่ระยะเริ่มต้น: เมื่อเริ่มเห็นสัญญาณของสิว แนะนำให้รีบจัดการทันที ไม่ปล่อยให้ลุกลามจนอักเสบรุนแรง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านการอักเสบ เช่น Tea Tree Oil หรือ Niacinamide หากสิวไม่ดีขึ้นแนะนำให้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
- ไม่แกะหรือบีบสิว: การแกะหรือบีบสิวเป็นสาเหตุหลักของการเกิดหลุมสิว เพราะทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงและทำลายเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง แม้จะรู้สึกคันหรือรำคาญ ก็ควรอดทนและใช้วิธีการรักษาที่ถูกต้องแทน
- ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นสม่ำเสมอ: ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจะเพิ่มโอกาสการเกิดสิวและการอักเสบ ควรใช้มอยเจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และคงความชุ่มชื้นให้ผิวตลอดวัน
- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิว: เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) และเหมาะกับสภาพผิวของคุณ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ระคายเคืองหรือก่อให้เกิดการแพ้ และทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้งก่อนใช้จริง
- พบแพทย์เมื่อมีปัญหาผิวหนัง: หากมีปัญหาผิวหนังที่ผิดปกติ เช่น สิวอักเสบรุนแรง ผื่นแพ้ หรือการระคายเคือง ควรรีบปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที อย่าพยายามรักษาเองด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสม
การป้องกันหลุมสิวซ้ำต้องอาศัยการดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี รวมถึงการรักษาสิวอย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น หากทำได้อย่างครบถ้วน จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหลุมสิวใหม่และรักษาสภาพผิวให้แข็งแรงในระยะยาว
ทาง Thaitop clinic ได้รวบรวมคลินิกรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในประเทศไทย
ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดสินใจของผู้ที่สนใจ
1. RWC CLINIC
รักษาหลุมสิวทุกวิธีแล้ว ไปหาคลินิกหลายที่แล้ว หลุมสิวก็ไม่หายสักที ลองแวะมาที่ RWC Clinic คลินิกอันดับหนึ่งในเรื่องของความงามและการปรับรูปหน้าลำดับต้น ๆ ของประเทศ สามารถทำให้ใบหน้าของคุณกลับมาเรียบเนียน กระจ่างใส ด้วยโปรแกรม Rapid Scar Clear ตรงเข้ารักษาหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและอ่อนโยน ไม่ทำร้ายผิว มีความปลอดภัยสูง ด้วยการดูแลและใส่ใจในการบริการของทีมแพทย์ การันตีคุณภาพด้วยรางวัลและเสียงตอบรับจากคนไข้จริงต่างๆ มากมาย มั่นใจได้ว่าการรักษาหลุมสิวที่ RWC Clinic นั้นจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจในราคาที่ย่อมเยา และคงมาตรฐานความปลอดภัยเช่นเดียวกัน
สำหรับโปรแกรม Rapid Scar Clear ทาง RWC เลือกใช้เครื่องมือที่มาพร้อมเทคโนโลยีรักษาหลุมสิวสุดทันสมัยและมีประสิทธิภาพนั่นคือเครื่อง Fractional radiofrequency microneedle และ Fractional radiofrequency ทั้ง 2 แบบ ซึ่งคุณหมอจะประเมินตามระดับความลึกของหลุมสิว ซึ่งมาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ยิงไม่จำกัดช็อต ยิงทีไม่มียั้ง ในราคามิตรภาพมาก ๆ อีกทั้งหากใครต้องการแก้ไขเพิ่มด้วยฟิลเลอร์หลุมสิว ก็สามารถทำได้เลย เพราะที่ RWC นั้นมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว จึงสามารถรักษาหลุมสิวด้วยโปรแกรม Rapid Scar Clear และ ฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิวได้เช่นเดียวกัน
ทำไมถึงต้องรักษาหลุมสิวที่ RWC Clinic
- ทีมแพทย์ของ RWC เป็นแพทย์ด้านตจวิทยา (ด้านผิวหนัง) โดยตรง และมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการรักษาหลุมสิว
- RWC รักษาหลุมสิวด้วยเครื่อง Fractora เป็นเครื่องมือสำหรับการรักษาหลุมสิวที่ดีที่สุดในตอนนี้
- ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญในการใช้งานเครื่อง Fractora
- มีราคาย่อมเยาว์ สมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไป
- เป็นอันดับ 1 ในเว็บจัดอันดับคลินิกรักษาหลุมสิวชื่อดังมากมาย
- การทำ Fractora ทุกครั้ง จะมียาทาเพื่อช่วยกระตุ้นการตื้นของหลุมสิวเพิ่ม
- ผลลัพธ์หลังการรักษาดีขึ้น รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าได้อย่างชัดเจน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 📲
Tel : 091-010-9379
Line : @rwc1
Facebook : facebook.com/rwcclinic
Blog : www.ฟิลเลอร์ไดอารี่.com
website : rwcclinic.com
website : rwcclinic.com
2. สโรชา คลินิก
สวยโดดเด่นด้วยการเป็นผู้สนับสนุนนางงามเวที Miss international ทำให้สโรชาเป็นที่ยอมรับของลูกค้าหลาย ๆ ท่าน หากใครเป็นคนนครนายกหรือใกล้เคียง สโรชาถือเป็นอีกหนึ่งความน่าเชื่อถือสำหรับการเข้ารับการรักษาค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
Tel : 082-199-4366
Line : 0869318238
Facebook : facebook.com/สโรชาคลินิก
3. LC Clinic
สำหรับใครอยู่เมืองย่าโม พลาดไม่ได้เลยกับคลินิกนี้ค่ะ เพราะคุณหมอที่เป็นทีมรักษาทุกคนเป็นแพทย์ผิวหนังชะลอวัยค่ะ นอกจากเรื่องหลุมสิว เรื่องผิวอื่น ๆ ก็สามารถเข้าปรึกษาคุณหมอได้นะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
Inbox : https://goo.gl/jaezpm
Line id : lcclinic
Website : www.lcclinics.com
4. Niran Clinic
ขึ้นชื่อเรื่องเลเซอร์ต้องยกให้คลินิกนี้เลยค่ะ เพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือเด็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับลดรอยดำ รอยแดง ด้วย Dual yellow หรือการรักษาหลุม ด้วยเครื่อง Ematrix
หน้าโรงแรมไม้หอมวิลล่า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
Tel: 0863627710
Facebook/ Line : Niranclinic
5. Vivid Clinic
คุณหมอขึ้นชื่อด้านความใส่ใจ สำหรับที่ vivid clinic สระบุรี ใครอยากรักษาแถวนี้ยังไม่มีที่ไว้ใจได้ แนะนำให้เข้าไปใช้บริการได้เลยค่ะ คลินิกได้มาตรฐาน
หัตถการโดยแพทย์จริง เทคนิคและประสบการณ์เยอะ ทำในสถานที่ที่เป็นคลินิกจริง จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ปรึกษา นัดจองคิว inbox มาเลยจร้า ยินดีตอบทุกคำถามคะ ถามจนมั่นใจแล้วค่อยตัดสินใจได้ค่ะ ^^ เปิดทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ 10.00-20.00
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
☎️ Tel : 036-222-882
📱 Tel : 065-8818830
💻 FB : Vivid Clinic สระบุรี
6. Pornkasem Clinic
การันตีด้วยรางวัล Ematrix ยอดใช้สูงสุดเมื่อปีก่อน สามารถรองรับคนไข้ได้หลายสาขา แต่ถ้าใครสนใจเข้ารับการรักษาแนะนำให้สอบถามไปก่อนนะคะ เพราะเครื่อง Ematrix ที่ใช้จะเวียนไปตามสาขาต่าง ๆ ค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
Call center : 02-252-1317
Line@ : http://bit.ly/2DRyIXQ
7. Zeles Clinic
คุณหมอมากด้วยประสบการณ์ ให้บริการมากกว่า 10 ปี ด้วยยาที่ถูกต้อง และความจริงใจ จึงเป็นที่มัดใจและบอกต่อของผู้เข้ารับบริการหลาย ๆ ท่านสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาได้ที่
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
📌Line : Poosan56
📌ทักแชทเฟส https://www.facebook.com/chantrakranclinic/
📌เบอร์ติดต่อ 045-282292 / 081-808-1142
8. Claire Clinic
ให้บริการเป็นกันเอง มากมายกับคอร์สราคาประหยัด ที่ทุกวัยสามารถจับต้องได้ ใครมีปัญหาอย่าลืมแวะไปที่แคลร์คลินิกนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
Tel : 092-4924469
FB : claireclinic.cm
Line : @claireclinic.cm (มี @ด้วยนะคะ)
หรือคลิกเลย https://line.me/R/ti/p/%40claireclinic.cm
Website : https://www.claireclinic.com/
9. Swan Clinic 🏆
ใครอยากให้คุณหมอหนุ่มหล่อช่วยดูแลผิว เลือกสวอนคลินิกให้ดูแลเลยนะคะ ชอบสายแมน ๆ ต้องทางนี้เลย รักษาสิวและต่อเนื่องด้วยการดูแลหลุมสิวที่สวอนคลินิก
ปรึกษาก่อนได้นะคะไม่มีค่าใช้จ่าย
สวย ปลอดภัย ไม่เสี่ยง ไว้ใจสวอนคลินิก
เปิดบริการทุกวัน 11.00-20.00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
Line : @swanclinic
Call : 094-549-4441
10. The Art Clinic
โดดเด่นด้วยการทำศัลยกรรมคุณภาพคับแก้ว แต่เรื่องดูแลผิวก็ไม่แพ้นะคะ ด้วยการรักษาหลุมสิวเฉพาะแบบของดิอาร์ทคลินิก ใครสนใจรีบจองคิวได้เลยค่ะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่📲
.
💌Line: @theartclinic
💌แอดไลน์: https://goo.gl/npiAeP
💌Facebook: https://bit.ly/2EgZxG7
💌IG: theartclinic
.
☎️Tel
สาขาลาดพร้าว
065-717-2473, 065-717-2474, 065-717-2475
สาขารัชโยธิน
065-717-2460